สำหรับเจ้าของรถที่เปลี่ยนมาติดตั้งแก๊ส CNG ต้องเข้ารับการตรวจจากกรมการขนส่งทางบกทุกปี ส่วนเจ้าของรถที่เปลี่ยนมาติดตั้งแก๊ส LPG ต้องตรวจทุก 5 ปีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
ปัจจุบันราคาน้ํามันมีการผันผวนและแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้เจ้าของรถยนต์หันมาติดตั้งแก๊ส สําหรับใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์เพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสําหรับรถใช็ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง กรมการขนส่งทางบก จึงกําหนดให้เจ้าของรถที่ติดตั้งแก๊ส CNG หรือ LPG เป็นเชื้อเพลิง จะต้องนํารถไปทําการตรวจและทดสอบการติดตั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ จากผู้ตรวจและทดสอบที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกก่อนชําระภาษี ประจําปี
เจ้าของรถที่นํารถเข้ารับการติดตั้งแก๊ส LPG หรือ CNG กับผู้ติดตั้ง ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก สามารถมั่นใจได้ในขั้นตอนวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องปลอดภัย อีกทั้งอุปกรณ์ ที่ใช้ก็ ได้มาตรฐานตามที่กําหนด โดยรถที่ใช้ ก๊าซ CNG เป้นเชื้อเพลิง ต้องตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบทุกปี ยกเว้น เฉพาะการติดตั้งก๊าซ CNG จากโรงงานที่เป็นผู้ ผลิตรถยนต์ (Original Equipment Manufacturer) ให้ ตรวจและทดสอบหลังจากจดทะเบียนครั้งแรกมาแล้ว 3 ปี และครั้งต่อไปต้องตรวจทุกปี สําหรับรถที่ใช้ ก๊าซ LPG เป็นเชื่อเพลิงให้ ตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบทุก 5 ปี นับแต่วันแจ้งการใช้ก๊าซเป็น เชื้อเพลิงเมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเจ้าของรถจะต้องนํารถเข้ารับการตรวจ สภาพและแจ้งแก้ไขชนิดเชื้อเพลิง ในสมุดคู่มือทะเบียนรถให้ถูกต้อง ภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้ทําการติดตั้งแล้ว ณ กรมการขนส่งทางบก หรือสํานักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
สําหรับหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการนํารถเข้ารับการตรวจสภาพ ได้แก้
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ
- ใบรับรองการติดตั้ง
- ใบรับรองการตรวจและทดสอบ
- และสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนเจ้าของรถ
ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ติดตั้งที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศแล้ว 800กว่าราย และผู้ตรวจและทดสอบจํานวน 200 กว่าราย
เจ้าของรถที่ประสงค์ จะเปลี่ยนแปลงชนิดเชื้อเพลิง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กลุ่มพลังงานและ
สิ่งแวดล้อม สํานักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบกจตุจักร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2271-8604 หรือ สอบถาม 1584
dlt.go.th